000 04753nam a22002417a 4500
008 200324b2563 th ||||| |||| 00| 0 tha d
020 _a9786164370968 :
_c280
040 _aBSRU
082 0 4 _a895.912
_bน127อ 2563
100 0 _aนครสวรรค์วรพินิต,
_cสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยา
245 1 0 _aอิเหนา /
_cสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานครสวรรค์วรพินิต
260 _aนนทบุรี :
_bศรีปัญญา,
_c2563
300 _a221 หน้า ;
_c22 ซม.
520 _a "อิเหนา" รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า "นิทานปันหยี" มีต้นกำเนิดมาจากชวา เล่าถึงเรื่องราวและวีรกรรมของกษัตริย์ชวาโบราณ ผสมปนเปเข้ากับเรื่องความรัก ความผิดหวัง การศึกสงคราม และอีกหลายอรรถรส ปรากฏในรูปของวรรณคดีที่แพร่หลายมายาวนานในดินแดนชวาและมลายู สันนิษฐานกันว่า "อิเหนา" หรือ "นิทานปันหยี" แพร่เข้ามาในแผ่นดินไทยเมื่อครั้งสมัยปลายอยุธยา โดยเชื่อกันว่า พระราชธิดาในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ คือ เจ้าฟ้าหญิงกุณฑล และเจ้าฟ้าหญิงมงกุฎ ทรงได้นางข้าหลวงมาจากปัตตานี นางข้าหลวงคนนี้ได้เล่านิทานปันหยีหรือเรื่องอิเหนาของชวาถวาย เจ้าฟ้าหญิงกุณฑลทรงนำเค้าเรื่องมาแต่งเป็นบทละครเรื่องดาหลัง (อิเหนาใหญ่) ส่วนเจ้าฟ้ามงกุฎทรงแต่งเรื่องอิเหนา (อิเหนาเล็ก) ทำให้ "นิทานปันหยี" ในประเทศไทยมี 2 เรื่อง นับแต่นั้นมา "ปันหยี สะมิหรัง" ที่แปลนี้ ต้นฉบับเก่าเป็นหนังสือภาษาชวา เก็บไว้ที่ห้องสมุดของสมาคมศิลปวิทยาเมืองปัตตาเวีย ส่วนฉบับที่ได้มาแปลนี้ เป็นภาษามลายู แปลจากต้นฉบับชวานั้นอีกชั้นหนึ่ง คำ "สะมิหรัง" แปลว่า แปลงหรือปลอมตัว คือว่าปันหยีแปลง คำนี้มีอีกนัยหนึ่งว่า "มิสาหรัง" ซึ่งเตือนให้นึกถึงหนังสืออิเหนาของเราซึ่งออกชื่อปันหยีว่า "มิสาระปันหยีสุกาหรา" จะอย่างไรก็ตามเมื่ออ่านไปแล้วย่อมตระหนักว่า มีเค้าที่จะลงรอยกับเรื่องอิเหนาของเรา แต่ในกระบวนชื่อเมือง ชื่อคนและวงศ์วารบ้างเท่านั้น ว่าโดยเนื้อเรื่องแล้วต่างกันมากอยู่ จะเทียบกับอิเหนาใหญ่หรืออิเหนาเล็กก็ไม่ตรงกันทั้งนั้น ส่วนที่แตกต่างกันมากน้อยเพียงไร ให้ผู้อ่านพิจารณาเอง...
650 4 _aอิเหนา
856 4 _3ดูปกและสารบัญ (see cover and contents)
_uhttps://opacb.bsru.ac.th/book/
900 _a20/11/04
901 _aTh Lang.
901 _aืืnew_nov20
940 _a281065
_a281066 ฉ.2
942 _2ddc
_c1
999 _c109285
_d109285
039 _c20221
_dโบว์ แซ่เจียม